ไนอาซินาไมด์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? แก้ปัญหาสิว-รอยดำ-ผิวหมอง ได้จริงหรือ

หากพูดถึง “ส่วนผสมสกินแคร์มาแรง” ชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องคงหนีไม่พ้น ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) สารกลุ่มวิตามินบี 3 ที่ถูกนำมาใช้ในครีมบำรุง เซรั่ม และโลชั่นนานหลายปี จุดเด่นคือสามารถช่วยดูแลผิวได้หลากหลาย ทั้งลดเลือนรอยสิว ลดความมันส่วนเกิน ไปจนถึงปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ แต่หลายคนยังสงสัยว่า “ไนอาซินาไมด์ช่วยเรื่องอะไรได้จริงบ้าง?” บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกแบบเข้าใจง่าย

ไนอาซินาไมด์คืออะไร?

ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) หรือ Vitamin B3 ในรูปแบบที่ละลายน้ำได้ง่าย จัดเป็นสารบำรุงผิวที่มีงานวิจัยรองรับมากที่สุดชนิดหนึ่งในวงการเครื่องสำอาง จุดเด่นคืออ่อนโยน ใช้ได้กับผิวแทบทุกประเภท รวมถึงผิวแพ้ง่าย

ไนอาซินาไมด์ทำงานโดยเข้าไปช่วยฟื้นฟูเกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) ลดการสูญเสียน้ำ พร้อมปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมัน จึงตอบโจทย์ทั้งปัญหาผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวหมองคล้ำ

ไนอาซินาไมด์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

ลดสิวและการอักเสบของผิว 

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบหรือสิวจากการอุดตัน ไนอาซินาไมด์ มีคุณสมบัติเด่นในการควบคุมและลดการผลิตไขมัน (Sebum) ส่วนเกินบนผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิว นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดรอยแดงจากสิว ทำให้ผิวดูสงบและแข็งแรงขึ้น

ลดเลือนรอยดำและรอยสิว 

ไนอาซินาไมด์ ไม่ได้เข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว (Melanin) โดยตรง แต่มีกลไกในการยับยั้งการเคลื่อนตัวของเม็ดสีจากชั้นใต้ผิวขึ้นมาสู่ผิวชั้นบน ทำให้รอยดำจากสิวและฝ้าดูจางลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ 

ไนอาซินาไมด์ช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูกระจ่างใสแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การกัดผิว แต่เป็นการทำให้ผิวแข็งแรงและลดการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไป

ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ 

ไนอาซินาไมด์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากความแห้งกร้าน นอกจากนี้ยังช่วยให้รูขุมขนที่ดูกว้างจากผิวที่ขาดความยืดหยุ่นดูกระชับขึ้นอีกด้วย

เสริมเกราะปกป้องผิว 

ผิวที่แข็งแรงคือหัวใจของผิวสุขภาพดีไนอาซินาไมด์ มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างสารเซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งเป็นไขมันในชั้นผิวที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ป้องกันการสูญเสียน้ำ และปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกที่ทำร้ายผิว เช่น มลภาวะหรือสารเคมี

วิธีใช้ไนอาซินาไมด์ให้เห็นผล

ความเข้มข้นที่เหมาะสม

• 2–5% → เหมาะกับผู้เริ่มต้น ผิวแพ้ง่าย เน้นเรื่องชุ่มชื้นและลดรอยแดง
• 5–10% → เน้นลดสิว รอยดำ ผิวหมองคล้ำ
• มากกว่า 10% → ใช้กับผิวที่แข็งแรงและเคยใช้มาก่อนเท่านั้น

ใช้ร่วมกับสารบำรุงอื่นได้ไหม?

• ใช้คู่กับ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) → เพิ่มความชุ่มชื้น
• ใช้คู่กับ เรตินอล (Retinol) → ลดการระคายเคืองและเสริมผลลัพธ์เรื่องริ้วรอย
• ใช้คู่กับ วิตามินซี (Vitamin C) → ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่ควรใช้ต่างเวลากันถ้าผิวแพ้ง่าย

เวลาที่ควรใช้ไนอาซินาไมด์ ไนอาซินาไมด์สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน แต่ควรลงหลังโทนเนอร์และก่อนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ซึมซาบได้ดีที่สุด

ข้อควรระวังในการใช้ไนอาซินาไมด์

• เริ่มจากความเข้มข้นต่ำเพื่อทดสอบการแพ้
• หากรู้สึกแสบ แดง หรือมีผื่น ควรหยุดใช้ทันที
• เก็บในที่แห้งและพ้นจากแสงแดด เพราะไนอาซินาไมด์เสื่อมคุณภาพได้ง่าย
  

คำถามที่พบบ่อย

Q1: ไนอาซินาไมด์ใช้ได้กับทุกสภาพผิวหรือไม่?
A: ได้เกือบทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย แต่ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ

Q2: ใช้ไนอาซินาไมด์กี่วันถึงจะเห็นผล?
A: โดยทั่วไปต้องใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 4–8 สัปดาห์ จึงเห็นผลชัดในเรื่องรอยดำและความเรียบเนียนของผิว

Q3: ไนอาซินาไมด์กับวิตามินซีใช้คู่กันได้ไหม?
A: ใช้ได้ แต่ควรเลือกสูตรที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กัน หรือใช้ต่างเวลากันเพื่อป้องกันการระคายเคือง

ไนอาซินาไมด์เป็นส่วนผสมสกินแคร์ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างชัดเจนว่าช่วยได้ทั้ง สิว รอยดำ ผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยเล็ก ๆ หากใช้ในความเข้มข้นและรูปแบบที่เหมาะสม จุดเด่นคือความอ่อนโยน ใช้ได้กับผิวหลายประเภท จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่แบรนด์ดังทั่วโลกนำมาใส่ในผลิตภัณฑ์

ที่ RR Cosmetics & Food Ingredients (ROSRIN) เราเข้าใจดีว่า การเลือกใช้เคมีภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพสูง อย่างไนอาซินาไมด์ เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ปลอดภัยและเห็นผลจริง หากคุณคือเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่สนใจพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง ทีมงาน Rosrin พร้อมให้คำปรึกษาและจัดหาวัตถุดิบมาตรฐาน เพื่อช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ของคุณให้โดดเด่นและน่าเชื่อถือในตลาด