

How to การดูแลผิวหน้าให้ดูกระจ่างใสขึ้น - ผิวขาวแบบสุขภาพดีใน 7 วัน
เคล็ดลับการดูแลผิวภายนอก (Skincare & Protection)
1.การปกป้องผิวจากแสงแดด(เป็นสิ่งสำคัญที่สุด)
แสงแดดเป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำและเกิดจุดด่างดำ
การป้องกันจึงสำคัญที่สุด
- ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมี PA+++ หรือสูงกว่า เป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่อยู่ในร่มหรือมีเมฆมาก
- ทาซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง หรือหากมีเหงื่อออกมาก
- หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะช่วง 10.00 - 16.00 น. หากเลี่ยงไม่ได้ให้กางร่ม สวมหมวกปีกกว้าง หรือใส่แว่นกันแดด
***หากทำงานกลางแจ้งควร ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และมี PA++++ เท่านั้น เพื่อลดปัญหาผิวหมองคล้ำจากแสงแดดที่แรง และปัญหาฝ้า กระ ที่จะตามมา
2.การผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
การผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำออกไป จะช่วยเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสขึ้น
-สครับผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA/PHA (กรดผลไม้)
โดยทำเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองหรือไวต่อแสงแดดมากเกินไป
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยให้ผิวกระจ่างใส เช่น วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินบี 3 (Niacinamide), อาร์บูติน (Arbutin) หรือสารไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ในรูปแบบเซรั่มหรือครีมบำรุง เพื่อให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีและทำงานอย่างเข้มข้น
3.เพิ่มความชุ่มชื้นและการบำรุง
- มาส์กหน้า: ใช้มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซี หรือส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและความชุ่มชื้น ทุกวัน ในช่วง 7 วันนี้เพื่อบูสต์ผิว
- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี: ** ล้างหน้าเบาๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว
เคล็ดลับการดูแลจากภายใน (Internal Care)
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- การดื่มน้ำ วันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 1.5-2 ลิตร จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ผิวดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2.พักผ่อนให้เต็มที่
- นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะช่วงเวลานอนหลับ ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว รวมถึงส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวไม่โทรมและหมองคล้ำ
3.รับประทานอาหารบำรุงผิว
- เน้นทาน ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ผักใบเขียว
- พิจารณาเสริม วิตามินซี ในรูปแบบอาหารเสริม (ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนเสมอ) เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและต้านอนุมูลอิสระ
การดูแลผิวที่ดีที่สุดคือการทำอย่างสม่ำเสมอและอ่อนโยนต่อผิว การเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะยาวอาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 อาทิตย์ หากผิวมีการระคายเคืองหรือแพ้ ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ทันทีและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที