bee
star
line
      bg-bee
      bg-bee-2

      ความแตกต่างของกรด Salicylic Acid & Azelaic Acid

       

      Picture1

      Salicylic acid

      Salicylic Acid (BHA) / Beta Hydroxy Acid เป็นสารที่ได้จากการสังเคราะห์ สามารถละลายในไขมันได้ซึ่งต่างจากกรดทั่วไป AHA โดย BHAจะสามารถผลัดเซลล์ผิว สลายเซลล์ผิวที่ตกค้าง เร่งการผลักเซลล์ผิวใหม่ พร้อมกับละลายไขมัน สิ่งสกปรกที่อุดตันในรุขุมขนได้ ลดการอุดตัน เผยผิวสะอาด ใส เรียบเนียนขึ้น

      Salicylic Acid จะช่วยลดค่า pH ของผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นในกระบวนการผลัดผิวตามธรรมชาติ

      คุณสมบัติ

      • ฆ่าเชื้อโรค (Antiseptic)
      • ผลัดเซลล์ผิว (Keratolytic)
      • ต่อต้านรังแค (Anti-dandruff)มีฤทธิ์สลายสิวอุดตัน และสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน

      ลักษณะผลิตภัณฑ์ : ผงสีขาว

      ปริมาณการใช้ที่แนะนำ : 0.1-3%(อ.ย. อนุญาตให้ใช้ไม่เกิน 2.0% สำหรับผลิตภัณฑ์ทาผิว และ 3.0% สำหรับผลิตภัณฑ์สระผมกำจัดรังแค หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วล้างออก), หากใช้ในความเข้มข้นสูงกว่านี้ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์

      การละลาย - วิธีใช้ : ละลาย กับ Isoprene Glycol (Isopentyldiol), Propylene Glycol, Butylene Glycol, Alcohol ก่อนเติมลงในสูตร

       

       
       
       
      a220

       

      Azelaic Acid

       

      Azelaic Acid  อยู่ในกลุ่มของกรดไดคาร์บอกซิลิก (Dicarboxylic Acid) เป็นกรดอินทรีย์ที่มักพบในพืชตระกูลข้าวสาลี ข้าวไรซ์และข้าวบาร์เลย์ส่วนใหญ่มักถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์เพื่อรักษาปัญหาผิวที่มีความรุนแรงในระดับน้อยไปจนถึงระดับปานกลาง

      #คณะผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบส่วนผสมเครื่องสำอางของสหรัฐอเมริกา สรุปว่า Azelaic Acid มีความปลอดภัย

       

      คุณสมบัติ

      🔸️ต้านเชื้อแบคทีเรียP.acne (แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว)

      🔸️มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและลด ROS ช่วยรักษาโรคผิวหนัง

      🔸️มีฤทธิ์ผลัดเซลส์ผิว ลดรอยแดงและรอยดำหลังเกิดสิว

      🔸️ป้องกันการสร้างเคราตินมากเกินไป สาเหตุของสิวอุดตัน

      🔸️ช่วยต้านอนุมูลอิสระปรับผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

      🔸️ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง อ่อนโยนและปลอดภัย

      🔸️ปรับสมดุลการหลั่งน้ำมันของผิว

      🔸️ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ช่วยรักษาฝ้ากระ รอยดำ

       

      ลักษณะผลิตภัณฑ์ : ผงสีขาวหรือเหลืองอ่อน มีกลิ่นเฉพาะตัว

      ปริมาณการใช้ที่แนะนำ : 1-10 %

      การละลาย - วิธีใช้ : ละลายใน Butylene glycol , Glycerin , Alcoholและสามารถละลายในน้ำได้เพียงเล็กน้อย

      ชื่อที่ใช้สำหรับยื่นจดแจ้งเครื่องสำอาง : Potassium azeloyl diglycinate

       

       
       
      ความแตกต่างระหว่าง Salicylic acid และ Azelaic Acid
       

      Azelaic acid เป็นกรดธรรมชาติ สามารถออกฤทธิ์เป็นยาต้านจุลชีพ และช่วยลดการอุดตันได้ นิยมนำมาใช้เป็นยารักษาสิวที่มีความรุนแรงน้อยไปถึงความรุนแรงปานกลาง นอกจากนี้กรดอะซีลาอิกสามารถลดรอยดำจากสิวหลังการรักษาสิวได้ และใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย (Rosacea) โดยช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง แต่กรดอะซีลาอิกมีข้อเสียคืออาจจะทำให้ผิวไหม้ แสบร้อน หรือเกิดเป็นแผลพุพองได้ หากมีการใช้ที่ผิดวิธีดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง

      ส่วน Salicylic acid เป็นกรดมาจากธรรมชาติเช่นเดียวกับ Azelaic acid ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว Keratinocyte ที่อุดตันในรูขุมขน ลดอัตราการเกิดสิว และสามารถออกฤทธิ์ลดอาการอักเสบลงได้แต่ Salicylic Aicd ให้ผลลัพธ์ที่น้อยกว่า Retinoid และ Benzoyl peroxide และอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังลอก และมีอาการแสบได้ หากใช้ รักษาสิว ในปริมาณที่มากเกินไป

       
      🧴 ใช้เมื่อไหร่?
      •ใช้ Salicylic Acid เมื่อ…
      •คุณมีสิวอุดตัน สิวหัวดำ
      •ผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง
      •ต้องการผลัดเซลล์ผิวลึก
      •ใช้ Azelaic Acid เมื่อ…
      •คุณมีผิวแพ้ง่ายหรือ rosacea
      •มีรอยดำ ฝ้า กระจากสิว
      •ต้องการลดรอยแดง รอยอักเสบ
       
       
      💡 คำแนะนำในการใช้ร่วมกัน
      •สามารถใช้ทั้งสองชนิดร่วมกันได้ แต่ไม่ควรใช้พร้อมกันในขั้นตอนเดียว เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
      •แนะนำให้ใช้ Salicylic Acid ตอนเช้า, Azelaic Acid ตอนเย็น หรือสลับวันกันใช้