เซราไมด์ (Ceramide) คืออะไร ทำไมถึงดีกับผิว?
เซราไมด์คืออะไร
เซราไมด์ (Ceramide) หริอ สฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) คือสารจำพวกไขมัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane)ที่สามารถเจอได้ในชั้นผิวบนสุดโดยจะร่างกายของเราจะสร้างขึ้นได้เอง คิดเป็นถึง 50% ของส่วนประกอบในชั้นผิว มีหน้าที่ในการปกป้องเซลล์ผิวจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก และยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังสามารถทำหน้าที่อุ้มน้ำ และรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนัง โดยเซราไมด์จะพบได้ที่ชั้นหนังกำพร้าชั้นนอก (Stratum Corneum) ซึ่งเป็นบริเวณผิวชั้นบนสุดของหนังกำพร้า (Epidermis) หน้าที่ของเซราไมด์ คือ จะเป็นตัวเชื่อมเคราตินให้เกิดการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ จึงช่วยให้ผิวแข็งแรง และช่วยลดอัตราการสูญเสียน้ำของผิว อีกทั้งทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและกระจ่างใสได้ ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น การผลิตเซราไมด์จะน้อยลง ทำให้ชั้นผิวของเราขาดความแข็งแรง เป็นสาเหตุของอาการผิวแห้ง คัน ระคายเคืองง่าย การใช้สกินแคร์ผสมเซราไมด์จึงเป็นทางเลือกในการอุดรอยรั่วของชั้นผิวของเราให้กลับมาอิ่มฟู ชุ่มชื้น และสุขภาพดียิ่งขึ้น
หากผิวของเราขาด Ceramide จะส่งผลต่อผิวของเราอย่างไร
โดยปกติปริมาณของเซราไมด์ใต้ผิวจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุ โดยแรกเกิดถึง 30 ปีผิวจะมีเซราไมด์ 100% และเมื่อมีอายุมากขึ้น ปริมาณเซราไมด์จะลดลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียง 30%++ เราทุกคนจึงสามารถพบเจอกับปัญหาผิวที่มีการขาดเซราไมด์ได้ อาจจะเกิดจากพันธุกรรมที่มีผิวแห้งแต่กำเนิด ฮอร์โมนลดลง จึงเป็นธรรมดาที่เซลล์ผิวจะผลิตเซราไมด์ได้น้อยลง เมื่อเซราไมด์ลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการขาดอย่างรุนแรงนั้นจะแสดงอาการโรคผิวหนังอโทปิก (Atopic dermatitis) ได้แก่ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) โรคผื่นแพ้จากการสัมผัส (contact dermatitis) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นต้น ทั้งนี้อาการที่สามารถสังเกตได้เบื้องต้น คือ ผิวแห้งแตกง่าย เกิดริ้วรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นได้ง่าย ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ตามมา
ปัจจัยที่ส่งผลต่อผิวของเรา
ปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด ความเครียด ก็เป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญในการทำให้เซลล์ผิวทำงาน และสร้างเซราไมด์ได้ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการขาดอย่างรุนแรงจะก่อให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังต่างๆตามมา โรคผื่นแพ้จากการสัมผัสจนไปถึง โรคสะเก็ดเงิน นอกจากนี้ปัจจัยที่มีผลต่อผิวยังมีฝุ่น pm 2.5 และมลภาวะต่างๆ ที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรที่จะทำการป้องกันเพื่อไม่ให้ผิวเสื่อมสภาพ จึงควรเสริมเซราไมด์ให้เพียงพอ ทำให้ผิวของเรานั้นสามารถคงสภาพผิวให้ชุ่มชื้นได้อยู่เสมอ Ceramide สูญเสียออกจากผิวเราทุกวัน จึงนำไปสู่ปัญหาผิวแห้ง แดง คัน ในที่สุด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเติม Ceramide เข้าสู่ผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และช่วยป้องกันปัญหาผิว
Ceramide Complex (Oliconew-8106)
Ceramide Complex ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับไขมันใต้ชั้นผิวของมนุษณ์ ทำหน้าที่เสริมเกาะป้องกันผิว (Skin Barrier) ปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด และมลภาวะ ทั้งยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดย Ceramide Complex ผสานด้วยเซราไมด์ 6 ชนิด ประกอบไปด้วย
•Ceramide NS/NG มีคุณสมบัติในการกระตุ้นผิวเพื่อสร้าง Ceramide
•Ceramide AS มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิว ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว ช่วยลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
•Ceramide 4 มีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง
•Ceramide EOS มีคุณสมบัติช่วยลดการสูญเสียน้ำภายใต้ชั้นผิว และช่วยลดการระคายเคืองของผิว
•Ceramide NP มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้ผิวนุ่ม เต่งตึง
•Ceramide AP มีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือผิวมีริ้วรอยแห่งวัย
นอกจากนี้ยังผสาน Laminaria Digitata Extract หรือ สาหร่าย ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน กรดอะมิโน และ แร่ธาตุทางพฤกษเคมีต่างๆ สาหร่ายถูกยกให้เป็นซุปเปอร์นิวทริเชียส สำหรับผิวพรรณและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นเมื่อถูกนำมาปรุงร่วมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะที่มีประโยชน์ต่อผิว ทั้งช่วยทำความสะอาดรูขุมขน เพิ่มความกระจ่างใส ชุ่มชื้นและป้องกันแสงแดด
INCI : LAMINARIADIGITATAEXTRACT&CETYL-PGHYDROXYETHYLPALMITAMIDE
&CERAMIDE1&CERAMIDE2&CERAMIDE3&CERAMIDE4&CERAMIDE6II
ประโยชน์ของเซราไมด์
เซราไมด์ยังช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ทั้งยังช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปัจจุบันมีการทำ Ceramide Complex มาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น ครีมบำรุงผิวกาย ครีมทาบำรุงผิวหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม มาส์ก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งที่เป็นการช่วยเติม Ceramide ให้ผิวส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ นอกจากนี้เซราไมด์ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารอื่นๆในสูตร ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถใช้ร่วมกับเรตินอล เปปไทด์ ไกลโคลิกแอซิด และกรดไขมันอื่นๆได้ด้วย
แล้วเครื่องสำอางที่มี Ceramide เหมาะกับใคร
Ceramide เหมาะสมกับผู้ที่มีผิวแห้ง แดง ผิวอักเสบ รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง หรือผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า เช่น โฟมล้างหน้า น้ำยาเช็ดเครื่องสำอาง เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหน้าหายไป Ceramide Complex จึงเป็นตัวช่วยทำให้ผิวหน้ากลับมาชุ่มชื้นและช่วยลดการอักเสบได้ด้วย
ควรทา Ceramide ตอนไหน
สำหรับในประเทศไทย Ceramide ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในรูปแบบครีม เซรั่มและยังมีรูปแบบอื่นอีกมากมาย ดังนั้นในการทา Ceramide แนะนำให้ทาเป็นขั้นสุดท้ายของการบำรุงผิวหน้า เพื่อให้ Ceramide ช่วยทำหน้าที่กักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นไว้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ไอเทมเติม Ceramide ให้ผิว
#ไม่อยากผิวเหี่ยวย่นมาเติม Ceramide ให้ผิวกันนะคะ ❗❗❗
CERAMIDE COMPLEX - เซราไมด์ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งเสีย และช่วยสร้างเกราะป้องผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว